บ้านของคนไทยในสมัยก่อน ส่วนใหญ่จะเป็นบ้านไม้และในเวลานั้นยังไม่มีการใช้สีย้อมไม้ สีเคลือบไม้ ไม่มีการใช้สารเคมีกันปลวกกันแมลง ดังนั้นถ้าหากใช้ไม้อายุไม่แก่พอมาสร้างบ้าน ก็มักจะมีปลวกมาทำรังบริเวณบ้านและคอยกัดกินไม้ในบ้านให้ผุพังโดยเฉพาะจุดที่มีความชื้น

คนไทยในสมัยโบราณจึงมีภูมิปัญญาแก้ปัญหาด้วยวิธีง่ายๆด้วยการเลี้ยงไก่บริเวณรอบๆบ้าน  เพื่อให้ไก่คอยคุยเขี่ยจิกกินปลวกหรือแมลง ในบ้างบ้านได้มีการเลี้ยงไก่ไว้ใต้ถุนบ้านเลย ทำให้บ้านไม่ผุพังเสียหายจากการถูกปลวกกิน

และจากการที่ไก่คุ้ยเขี่ยหาอาหารกินเองทำให้เราประหยัดค่าอาหารและไก่มีสุขภาพดี ที่ฟาร์มของเราตอนเช้าจะไม่ให้อาหารไก่ในช่วงเช้า โดยจะปล่อยให้ไก่ออกจากคอกไปหากินเองประมาณ 8.00 น. จากนั้นประมาณ 16:00 น ก็จะเรียกให้มาเข้าคอก เพื่อกินอาหารเย็นที่เตรียมไว้ ถ้าหากทำเป็นประจำไก่จะรู่เวลากลับ และรู้ตำแหน่งเล้าที่นอนของตนเองเป็นอย่างดี (ทางฟาร์มจะใช้มุ้งฟ้าล้อมกันยุงเวลากลางคืนด้วย)

สำหรับพื้นที่ภายนอก ทางฟาร์มจะมีการตัดแต่งกิ่งไม้ และใบไม้กองทิ้งไว้เป็นจุดๆ เพื่อให้เกิดการย่อยสลายตามธรรมชาติ เมื่อกองทิ้งไว้ไม่นานจะมีแมลและปลวกมาอาศัยอยู่ ตรงจุดนี้เองที่เป็นแหล่งอาหารของไก่ และเป็นการล่อปลวกให้ไปหากหากินไกลจากตัวบ้านเรือนอีกด้วย

สรุป : วิธีเลี้ยงไก่แบบนี้ จะทำให้ประหยัดค่าอาหารไก่ ไก่ก็จะแข็งแรงเพราะได้วิ่งได้บินได้คุ้ยเขี่ย และจะเป็นการป้องการปลวกโดนไม่ต้องใช้สารเคมีอีกด้วย